หิมะตกแม้เป็นจังหวัดทางตอนใต้! ฤดูหนาวของซากุระจิมะ

ลมฤดูหนาวที่พัดเข้ามาจากทะเลจีนใต้ ทำให้หิมะตกในอำเภอคาโงชิมะอันอบอุ่น ซากุระจิมะที่ถูกแต่งแต้มด้วยหิมะขาว เป็นทัศนียภาพขึ้นชื่ออย่างหนึ่งในฤดูหนาวของอำเภอคาโงชิมะ


ซากุระจิมะเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคงมีการปะทุอยู่หลายลูกในโลก โดยมียอดเขา 3 ยอดคือ ยอดเขาเหนือ(1,117เมตร) ยอดเขากลาง(1,060เมตร) และยอดเขาใต้(1,040เมตร) ที่ “จุดชมวิวยุโนฮิระ(Yunohira Observation Point)”ที่อยู่บนชั้น4ของยอดเขาเหนือ เป็นจุดที่บุคคลทั่วไปจะสามารถเข้าใกล้ปากปล่องภูเขาไฟได้มากที่สุด ซึ่งจะสามารถสัมผัสถึงพื้นผิวอันกันดารของยอดเขา และยังมองเห็นการเคลื่อนไหวของภูเขาไฟได้จากทุ่งหินภูเขาไฟด้านล่างได้อีกด้วย
ที่ “จุดชมวิวอาริมุระ(Arimura Observation Point)”ที่อยู่บริเวณเชิงเขาของยอดเขาใต้ ก็เป็นอีกจุดที่สามารถสัมผัสถึงภูเขาไฟได้ ทัศนียภาพแปลกตาที่ทอดตัวอยู่ตรงหน้า เกิดจากการผสมผสานกันของหินภูเขาไฟและต้นสนดำ และในบางครั้งก็อาจจะได้ยินเสียงสะเทือนจากปากปล่องภูเขาไฟอีกด้วย
“Sakurajima Visitor Center” เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่จะสามารถชมประวัติของซากุระจิมะและส่วนประกอบของภูเขาไฟได้จากระบบHi-Vision และ Diorama(โมเดลจำลอง) นอกจากนี้ยังมีของฝากแบบฉบับซากุระจิมะอย่างภาชนะซากุระจิมะโยงันยากิ(เครื่องเผาจากหินภูเขาไฟ) หากได้ไปยังซากุระจิมะก็ควรไปเยือนสักครั้ง
“ใหญ่ที่สุด” และ “เล็กที่สุด” ที่เกิดจากการดำรงชีวิตบนเกาะร่วมกับภูเขาไฟ
เกาะซากุระจิมะซึ่งมีประชากรประมาณ4,500คนเป็นหนึ่งในไม่กี่เกาะบนโลกที่ผู้คนอาศัยอยู่ร่วมกับภูเขาไฟ ชาวเกาะอาศัยผืนแผ่นดินอันยิ่งใหญ่ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเพาะปลูกสิ่งที่ “หนักที่สุดในโลก” และ พันธุ์ที่เล็กที่สุดซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวได้จากบนซากุระจิมะเท่านั้น ที่นี่มีหัวไชเท้าที่หนักที่สุดในโลก และส้มพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลก

ที่หนักที่สุดในโลกคือ “ซากุระจิมะไดกอน(Sakurajima daikon)” หัวไช้เท้าที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งบนผืนแผ่นดินที่ปนด้วยหินพัมมิซ(Pumice หินแก้วที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ มีรูพรุนซึ่งเกิดจากฟองอากาศ เบาและสามารถลอยน้ำได้) ตามบันทึกสิถิติโลกโดยกินเนสมีน้ำหนักถึง 31.1กิโลกรัม และมีเส้นรอบวงถึง 119เซนติเมตร
ส้ม “ซากุระจิมะโคมิกัง(Sakurajima Komikan)”ที่เก็บเกี่ยวได้ในช่วงปลายเดือนมกราคม จนถึงปลายเดือนธันวาคม เป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง5เซนติเมตรเท่านั้น แม้จะมีผลเล็กแต่ก็มีความหวานสูง และติดผลเป็นจำนวนมาก ในบางครั้งสามารถเก็บผลได้หลายร้อยกิโลกรัมจากเพียงต้นเดียว

วิ่งออกกำลังกายไปพลางชมทัศนียภาพของซากุระจิมะ

งาน “Running Sakurajima”(ธันวาคมของทุกปี) ซึ่งวิ่งไปบนเกาะซากุระจิมะ เป็นอีเวนท์ยอดนิยม โดยมีเส้นทาง 3 เส้นทางคือ ระยะทาง 5 กิโลเมตร 10 กิโลเมตร และฮาล์ฟมาราธอน ในอีเวนท์เพียบพร้อมด้วยจุดพยาบาลเบื้องต้น ทำให้ผู้หัดวิ่งสามารถร่วมงานได้อย่างอุ่นใจ
การแข่งขัน “Kagoshima Marathon”ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 6 มีนาคม 2016 เป็นงานแข่งมาราธอน “เพื่อสัมผัสถึงทุกสิ่งในคาโงชิมะ” โดยวิ่งเรียบแนวชายฝั่งอ่าวคิงโค ชมซากุระจิมะ ผ่านเท็มมงคัง ซึ่งเป็นย่านการค้าอันดับหนึ่งของมินามิคิวชู และ “ชูเซอิคัง” อันเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ทั้งสองงานมีกำหนดเปิดรับสมัครผู้ร่วมงานครั้งถัดไปในช่วงฤดูร้อน ผู้สมัครจากต่างประเทศก็สามารถเข้าร่วมได้
ไปดูนกกระเรียนหมื่นตัวกันเถอะ!


หากได้ไปเยือนจังหวัดคาโงชิมะในฤดูหนาว ก็ลองเดินทางไกลจากอำเภอคาโงชิมะไปอีกสักนิด แล้วไปดูนกกระเรียนหมื่นตัวกันเถอะ เดินทางด้วยรถไฟชินคังเซ็นจากสถานีคาโงชิมะชูโอไป 25 นาที จะถึงเขตอาราซากิ(Arasaki) ในอำเภออิซึมิ(Izumi-shi) อันเป็นเขตอพยพในฤดูหนาวของนกกระเรียนที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งในโลก นกกระเรียนจะเริ่มอพยพมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคมซึ่งสิ้นสุดฤดูกาลต้นกล้าพอดี และเมื่อถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ทั้งนาข้าวและท้องทุ่งจะเต็มไปด้วยฝูงนกกระเรียน เช่น นาเบะซึรุ(นกกระเรียนหมวกขาว) และมานะซึรุ(นกกระเรียนคอขาว) กว่าหมื่นตัว

อำเภออิซึมิตั้งอยู่ใกล้กับรอยต่อกับจังหวัดคุมาโมโตะ ซึ่งในสมัยที่ยังเป็นแคว้นซัทสึมะ มีนักรบพื้นบ้าน(นักรบในเวลาสงบจะประกอบการเกษตร) อาศัยอยู่มาก หมู่คฤหาสน์ของนักรบพื้นบ้านเหล่านั้นยังคงสภาพดั้งเดิมมาจนถึงยุคปัจจุบัน โปรแกรมท่องเที่ยวที่ได้สวมชุดกิโมโนเดินเที่ยวเล่นในเมืองหรือทดลองร่วมพิธีชงชา(5,500เยน) เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ชุดกิโมโนและสายรัดเอวโอบิจะได้รับเป็นของขวัญกลับไปบ้านด้วย

ชมจุเฮียวบนที่ราบสูงคิริชิมะ

บนแนวเขาคิริชิมะที่ทอดตัวยาวระหว่างจังหวัดคาโงชิมะและมิยาซากิ จะสามารถชมจุเฮียว(Juhyo; ต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำแข็ง) ได้ระหว่างเดือนธันวาคม ถึงมีนาคมเป็นประจำทุกปี
ในบรรดาจุดชมจุเฮียว ยอดเขาคาราคุนิดาเกะ(Karakunidake; 1,700เมตร)เป็นสถานที่มีชื่อเสียง และเส้นทางเดินเขาในฤดูหนาวก็เป็นที่นิยม บริเวณรอบทะเลสาบโอนามิอิเคะ(Oonamiike; 1,241เมตร) ซึ่งเป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่อยู่ที่ระดับความสูงที่สุดในญี่ปุ่น ก็เป็นจุดชมจุเฮียวที่มีชื่อ เส้นทางไปยังยอดเขาถูกปรับให้เดินได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่หัดเดินเขา

รอบๆ “Ebino Eco Museum” ที่ที่ราบสูงเอบิโนะ(Ebino Kogen) ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออกของแนวเขาคิริชิมะ ก็มีจุดชมจุเฮียวเช่นกัน ถ้าเงื่อนไขต่างๆเช่น อุณหภูมิ และหมอกเกิดขึ้นได้อย่างพอเหมาะ จะสามารถชมจุเฮียวได้จากจุดที่ห่างจากพิพิธภัณฑ์ไปด้วยการเดินเพียง 5-10 นาที มีเพียงเครื่องป้องกันความหนาวก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เดินเขา สามารถเดินทางไปยังที่ราบสูงเอบิโนะด้วยรถบัสที่ออกจากสถานีคิริชิมะจิงงู(Kirishima Jingu) ในสายJR นิปโป(JR Nippo)

ที่แนะนำสำหรับการท่องเที่ยวเป็นครอบครัว คือฟาร์มทาคาจิโฮะที่อยู่บริเวณเชิงเขาของแนวเขาคิริชิมะ นอกจากจะสามารถสัมผัสกับวัวหรือแกะกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่ ยังสามารถทดลองรีดนม หรือทำเนยได้อีกด้วย

จุดชมวิวฮิซึจิงาโอะกะ(Hitsuji ga oka) เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมซึ่งจะสามารถมองเห็นซากุระจิมะและอ่าวคิงโคได้ในวันที่อากาศปลอดโปล่ง ที่นี่มีตำนานว่าคู่รักที่ได้ชมซากุระจิมะด้วยกันที่นี่จะได้ลงเอยกัน

ที่ยืนต้นอย่างสง่างามแม้ในฤดูหนาว คือต้นโอคุสุโนกิ(Oo-kusunoki; ต้นการบูรใหญ่) ที่ศาลเจ้าคาโมฮาจิมัง(Kamo Hachiman jinja) ในอำเภอไอระ(Aira-shi) ซึ่งอยู่ติดกับอำเภอคาโงชิมะ อายุโดยประมาณคือ 1,500ปี มีเส้นรอบลำต้นถึง 24.2เมตร และความสูงกว่า 30เมตร เป็นต้นคุสุโนกิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และยังมีชื่อเสียงด้านการเป็นจุดมีพลังนำโชคอีกด้วย
ไปชมดอกไม้ของฤดูใบไม้ผลิเร็วกว่าที่อื่นกันเถอะ!

แม้ว่าจะมีหิมะตก แต่คาโงชิมะก็เป็นจังหวัดที่อยู่ทางใต้สุดของอาณาเขตหลักของประเทศญี่ปุ่น ฤดูใบไม้ผลิมาเยือนอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคม ไปจนถึงเดือนเมษายน หรือพฤษภาคม จะสามารถชื่นชมดอกไม้นานาพันธุ์ได้
ที่รอบๆยอดเขาไคมงดาเกะ(Kaimondake) ซึ่งมีความสวยงามคล้ายกับภูเขาฟุจิจนได้สมญาว่า “ซัทสึมะฟุจิ” เป็นจุดชมดอกนาโนฮานะ(Nanohana; พืชตระกูลเดียวกับบร๊อคโคลี่ มีดอกสีเหลืองสด)ที่มีชื่อ ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เชิงเขาจะถูกปกคลุมด้วยสีเหลืองสวยงามไปทั่วบริเวณ รอบๆทะเลสาบอิเคดะ(Ikeda-ko) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดคิวชู ด้วยความยาวรอบทะเลสาบถึง 15 กิโลเมตร และลึกถึง 233 เมตร เป็นจุดถ่ายภาพทุ่งดอกนาโนฮานะที่แนะนำแห่งหนึ่ง

ที่เกาะอามามิโอชิมะ(Amami ooshima) ซึ่งมีเที่ยวบินจากท่าอากาศยานคาโงชิมะถึงวันละ 14 เที่ยว จะมีดอกฮิคังซากุระ(Hikanzakura) สีชมพูเข้ม เริ่มผลิดอกตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม ที่ “ป่าสังเกตธรรมชาติของอามามิ(Amami shizenkansatsu no mori)” ในตำบลทัตสึโง(Tatsugo-cho) สามารถชมดอกไม้ได้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์

ที่ “สวนสาธารณะโยชิโนะ(Yoshino koen)” ในอำเภอคาโงชิมะ เป็นสวนดอกไม้ที่มีซากุระกว่า 800ต้น 12สายพันธุ์ และพรรณไม้อื่นๆอีกกว่า 7หมื่นต้น 140พันธุ์ ซึ่งสามารถชมได้ตั้งแต่กุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม แต่ช่วงที่แนะนำคือต้นเดือนเมษายน สีที่ตัดกันของซากุระบานสายและดอกซึสึจิ(Tsutsuji; กุหลาบหินประเภทหนึ่ง) หลากสีสันสวยงามตระการตา

“อิโซยามะ” ซึ่งอยู่ติดกับจุดท่องเที่ยวยอดนิยมในตัวอำเภอคาโงชิมะ “เซนงันเอ็น(อิโซะเทอิเอ็น)” จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะหน้าซากุระบานเท่านั้น เป็นสวนซากุระที่ถูกรักษาไว้อย่างดีตั้งแต่ที่ซามุไรยังปกครองแคว้น(คริสตศตวรรษที่ 12-19)

ดอกไม้ที่ปิดท้ายฤดูใบไม้ผลิคือ มิยามะคิริชิมะ(Miyamakirishima; กุหลาบหินประเภทหนึ่ง) ซึ่งผลิดอกบนภูเขาสูงของคิวชู สามารถชมได้ที่ที่ราบสูงเอบิโนะ ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม-ต้นเดือนมิถุยายน และที่ยอดเขาคาราคุนิดาเกะช่วงต้นถึงปลายเดือนมิถุยายน

ที่ที่สามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติอันสวยงามได้ คือเกาะยาคุชิมะ(Yakushima)ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ยาคุชิมะตั้งอยู่ห่างจากส่วนใต้สุดของเกาะคิวชูไปทางใต้60กิโลเมตร พื้นที่เกาะทั่วทั้งเกาะเป็นภูเขา และมีสภาพภูมิอากาศเป็นเขตกึ่งร้อนกึ่งหนาวแตกต่างกันในระดับความสูงแนวตั้ง อุณหภูมิบนยอดเขาสูงอย่างยอดเขามิยาโนะอุระดาเกะ(Miyanouradake; 1,936เมตร) ต่ำกว่าอุณหภูมิของซัปโปโรในฮอกไกโด ในขณะที่บริเวณเชิงเขามีสภาพเหมือนป่าดิบชื้น ทำให้มีระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์หลากหลาย จนถูกจัดเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ด้วยต้นสนยาคุสึงิ(Yakusugi)ยักษ์ใหญ่ที่มีอายุกว่า1,000ปี ตะไคร่ และแหล่งน้ำอันอุดมสมบูรณ์ยังทำให้ถูกเรียกว่าเป็น “เกาะแห่งป่าโบราณและสายน้ำ” อีกด้วย
ไม่ว่าฤดูไหนของคาโงชิมะก็มีสิ่งชวนตื่นตาเต็มไปหมด ทำให้สามารถเพลิดเพลินได้ตลอดสี่ฤดู ทั้งวัฒนธรรมประเพณี อาหารเลิศรส และบ่อน้ำร้อนออนเซ็น เชิญไปสัมผัสเสน่ห์อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจังหวัดคาโงชิมะได้เลย!