โลกแห่งแสดงสีและจินตนาการที่สร้างด้วยงานแสดงไฟ

เมื่อเริ่มเข้าใกล้ฤดูหนาว จะเริ่มมีการจัดแสดงไฟอิลลูมิเนชั่นอันสวยงามตามจุดต่างๆของจังหวัดโทจิงิ ที่ “อาชิกางะฟลาวเลอร์พาร์ค(Ashikaga Flower Park)” เป็นแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ได้รับเลือกเป็น “10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในฝัน”(ปี2014) โดย CNN ของสหรัฐอเมริกา ประดับประดาภายในสวนไปด้วยหลอดไฟกว่า 3 ล้านดวง ทั้งการประดับไฟจำลอง “Kiseki no oofuji(ต้นฟุจิใหญ่อันน่ามหัศจรรย์)” ที่มีชื่อเสียง และการประดับไฟบนพื้นลาดเอียงของเนินเขาเป็นภาพวาด ก็เป็นจุดที่น่าตื่นตา

ที่ “นาสุการ์เด้นท์เอาท์เล็ต(Nasu Garden Outlet)” นั้น ในบริเวณชอปปิ้งจะถูกห้อมล้อมด้วยแสงไฟอิลลูมิเนชั่น แม่น้ำโองาวะที่ไหลผ่านเอาท์เล็ตสะท้อนแสงสีฟ้าที่ปกคลุมทั่วผืนน้ำแสงประกายราวกับทางช้างเผือก

ที่ “โทบุเวิลด์สแควร์(Tobu World Square)” พิพิธภัณฑ์งานสถาปัตยกรรมซึ่งจำลองสิ่งปลูกสร้างจากทั่วโลกและมรดกโลกมาไว้ในขนาด 1:25 มีการจัดแสดงไฟอิลลูมิเนชั่นอันตระการตาประกอบงานสถาปัตยกรรมอันมีชื่อจากทั่วโลกกว่า 102 ชิ้น สามารถเพลิดเพลินได้ราวกับกำลังท่องเที่ยวไปรอบโลกที่ถูกโอบล้อมด้วยเวทย์มนต์
โทจิงิ ฤดูหนาวก็อยากเต็มอิ่ม

จังหวัดโทจิงิที่อุดมไปด้วยธรรมชาติยังมีมุมมองที่ต่างไปในฤดูหนาว “เทศกาลยุนิชิคาวะคามาคุระมัทซึริ(เทศกาลบ้านหิมะยุนิชิคาวะ)”(ปลายม.ค.-ต้นมี.ค.) ที่บ้านหิมะหลังเล็กๆนับพันจะส่องแสง เกิดเป็นทัศนียภาพราวกับอยู่ในความฝัน เป็นของขึ้นชื่ออย่างหนึ่งในฤดูหนาวของโทจิงิ
เทศกาลยุนิชิคาวะคามาคุระมัทซึริ(เทศกาลบ้านหิมะยุนิชิคาวะ)
สอบถามรายละเอียดได้ที่: Nikko Tourist Association
โทรศัพท์: 0282-22-1525

ทัศนียภาพในฤดูหนาวของสถานที่มีชื่อด้านใบไม้เปลี่ยนสี อย่างเซนโจงะฮาระหรือเนินอิโรฮะซากะ ก็มีสเน่ห์เช่นกัน ทุ่งหิมะสีขาวที่ตัดกับท้องฟ้าหรือเสาน้ำแข็ง เป็นความงามที่น่าประทับใจ

โทจิงินั้นมีผลผลิตสตรอเบอรี่สูงที่สุดในญี่ปุ่น กิจกรรมเก็บสตรอเบอรี่ที่สามารถลองเก็บได้ตั้งแต่เดือนมกราคม เป็นอีกหนึ่งความสนุกที่สามารถเจอได้ในฤดูหนาวของโทจิงิ
จังหวัดโทจิงิยังมากด้วยแหล่งบ่อน้ำร้อนออนเซน และยังอุดมไปด้วยวัตถุดิบอันเลิศรสจากภูเขา ลองจับคู่งานเทศกาลที่ชอบ กับมรดกโลก ใบไม้แดง หรือการเล่นหิมะ ให้เป็นการเดินทางที่เต็มอิ่มดูดีไหม การท่องเที่ยวโทจิงิสามารถทำให้คนอยากจะเต็มที่กับการเดินทางต้องการพอใจได้แน่นอน
ฤดูใบไม้ผลิของโทจิงิ เต็มไปด้วยเหล่าดอกไม้นานาพรรณ
เริ่มได้ยินเสียงของฤดูใบไม้ผลิใกล้เข้ามาแล้ว หากพูดถึงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น หลายๆคนคงนึกถึงการชมซากุระขึ้นมาเป็นอย่างแรก แต่เสน่ห์ของฤดูใบไม้ผลิไม่ได้มีแค่ซากุระเท่านั้น ฤดูใบไม้ผลิที่โทจิงิ เต็มได้ด้วยดอกไม้นานาพรรณ อย่างเช่น กลุ่มต้นฟุจิใหญ่แปดชั้น(ยาเอะโนะโอฟุจิดานะ ที่Ashikaga Flower Park)ซึ่งหาดูได้ยากในโลก


สาระแน่น!ข้อมูลของ “โทจิงิที่อยากไปเยือน” ส่งตรงถึงที่!
เว็บแนะนำการท่องเที่ยวของจังหวัดโทจิงิปรับรูปโฉมใหม่!นอกจากหน้าภาษาอังกฤษ ภาษาจีน(อักษรจีนตัวเต็ม/ตัวย่อ)และภาษาเกาหลี ยังเพิ่มหน้าภาษาไทยเข้ามาอีกด้วย รูปภาพต่างๆก็มีการปรับเปลี่ยนใหม่ แนะนำเสนอ “โทจินิที่อยากไปเยือน” อย่างจุใจ ทั้งหน้าแนะนำไกด์ล่าม หน้าตัวอย่างเส้นทางการท่องเที่ยว และยังมีการจัดลำดับจุดท่องเที่ยวและงานเทศกาลยอดนิยม เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น หากต้องการจะมาท่องเที่ยวที่โทจิงิ ก็สามารถลิงค์ไปยังเว็บไซต์สำหรับจองที่พักได้โดยตรง และต้องไม่ลืมดาวน์โหลดแพมเฟลทท่องเที่ยวก่อนออกเดินทางด้วย!
มรดกโลกที่ไปพบได้ในเวลาเพียง 2 ชม.จากโตเกียว


การไปยังมรดกโลก “ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก้” นั้น หากใช้รถไฟชินคังเซ็นสายโทโฮคุ หรือรถด่วนของโทบุเทซึโด จากใจกลางเมืองหลวงเพียง 2 ชม.ก็สามารถไปถึง ศาลเจ้านิกโก้โทโชงู วัดรินโนจิ และ ศาลเจ้านิกโก้ฟุตะระซัน 3 ศาลเจ้าและวัด อันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เงียบสงบ
ศาลเจ้านิกโก้โทโชงูนั้น เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่อนมัสการ โทคุงาวะ อิเอยาสึ ผู้ซึ่งยุติยุคสงครามอันยาวนานลงในช่วงต้นคริสศตวรรษที่ 17 และก่อตั้งรัฐบาลเอโดะบาคุฟุซึ่งมีอายุยาวนานถึง 260 ปี นิกโก้เป็นสถานที่มีชื่อว่ามีพลังทางวิญญาณมาตั้งแต่โบราณกาล เนื่องด้วยความที่เป็นจุดที่มีพลังอำนาจทางวิญญาณอันสูงส่งนี้ อิเอยาสึจึงสั่งให้ตั้งสุสานของตนขึ้นที่นี่เพื่อที่จะได้ดูแลปกปักรักษาเอโดะได้หลังความตาย โดยออกแบบให้ มีดาวเหนืออยู่เหนือท้องฟ้าจุดที่ประตูโทริอิและประตูโยเมมงอันโด่งดังมาบรรจบกัน และเมื่อลากเส้นโยงระหว่างอาคารสำคัญต่างๆจะได้เป็นตำแหน่งกลุ่มดาวหมีใหญ่

อีกอย่างที่พลาดชมไม่ได้ที่ศาลเจ้านิกโก้โทโชงู คืออาคารและเหล่างานประติมากรรมกว่า 5,000 ชิ้นหลากสีสันที่ตบแต่งด้วยสีนํ้าเงินอันลํ้าค่าและทองคำ กล่าวกันว่าประติมากรรมที่ถูกแนะนำทั้งใน Michelin Guide และ Lonely Planet “แมวนิทรา” และ “นกกระจอก”ซึ่งหันหลังให้กับแมวที่เป็นศัตรู ใช้สื่อถึงการมาถึงของยุคสมัยอันสงบสุข


ทางเข้าของศาลเจ้านิกโก้ฟุตะระซัน “สะพานชินเคียว”(สะพานเทพเจ้า) ซึ่งถือเป็นทางเข้าสู่มรดกโลก “ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก้” ด้วยนั้นเป็นจุดถ่ายภาพอันยอดเยี่ยม ซึ่งช่างภาพมากมายจากทั่วโลกต่างมาเยือน เทพเจ้าแห่งศาลเจ้านิกโก้ฟุตะระซันที่มีอายุกว่า 1,200 ปีแห่งนี้มีชื่อด้านการผูกดวง ไม้กระดานอธิฐานซึ่งไว้ใช้เขียนขอพรจึงพิมพ์ลายหัวใจน่ารัก


ซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูหนาวก็เป็นทัศนียภาพของหิมะ “ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก้” ที่สวยงามต่างกันไปในสี่ฤดูนั้น ที่สามารถอิ่มเอมไปกับความงดงามได้อย่างเต็มที่นั้น เห็นจะเป็นฤดูใบไม้ร่วง สีแดงของสถาปัตยกรรมและสีแดงสดของใบไม้ ต่างช่วยขับเสน่ห์ของอีกฝ่ายออกมาให้เห็นเด่นชัดขึ้น การจัดแสดงไฟในยามคํ่าคืนก็มีในฤดูนี้ กำหนดการจัดแสดงไฟในปี 2016 นี้ ที่ศาลเจ้านิกโก้โทโชงูระหว่าง 11 พ.ย. 13พ.ย. ที่วัดรินโนจิซึ่งโด่งดังด้วยสวนญี่ปุ่นที่น่าชม ระหว่าง 25ต.ค.15พ.ย. ภาพใบไม้แดงที่ประดับบนท้องฟ้ายามคํ่าคืน น่าจะเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนสำหรับการท่องเที่ยวในโทจิงิ
จากบนเขาลงสู่ตีนเขาผืนหญ้าช่องผาและเส้นทางต่างย้อมไปด้วยใบไม้แดง

ใบไม้เปลี่ยนสีที่เริ่มต้นจากฮอกไกโด ค่อยๆลงใต้มาเรื่อยๆและมาถึงภูเขาต่างๆของโทจิงิในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม ด้วยลักษณะพื้นที่ของจังหวัดโทจิงิที่ 55% เป็นผืนป่าและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ จึงสามารถเที่ยวชมสีอันเป็นเอกลักษณ์ของใบไม้เปลี่ยนสีได้ตามที่ต่างๆในตัวจังหวัด

อย่างเช่น ที่ “เซนโจงะฮาระ” ที่โอคุนิกโก้ พื้นที่ชุ่มนํ้าที่ถูกขึ้นทะเบียนในอนุสัญญาแรมซาร์ จะได้พบกับทุ่งหญ้าเปลี่ยนสีที่ผืนหญ้าถูกย้อมไปด้วยสีต่างๆของใบหญ้า ที่รอบๆบริเวณนี้มีการจัดเส้นทางเดินสำรวจธรรมชาติ ซึ่งสามารถสนุกสนานไปกับเดินเที่ยววนรอบได้ภายใน 2 ชม.

ที่รอบๆทะเลสาบจูเซนจิซึ่งเป็นทะเลสาบที่อยู่สูงที่สุดของญี่ปุ่นที่ 1,200เมตรจากกระดับน้ำทะเล ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีช่วงกลางเดือนตุลาคม เส้นทางเดินเท้าเรียบทะเลสาบถูกย้อมไปด้วยสีส้มของป่าต้นบุนะ(ต้นบีชญี่ปุ่น) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินเล่นในฤดูใบไม้ร่วง

การเดินทางไปยังทะเลสาบจูเซนจิใช้เวลาประมาณ 40 นาทีโดยรถประจำทางจากหน้าสถานีนิกโก้ ระหว่างทางจะผ่าน “เนินอิโรฮะซากะ” ซึ่งเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นชื่อ เนินอิโรฮะซากะที่มีความต่างระดับถึง 800 เมตร เต็มไปด้วยทางโค้งหักศอกมากมาย ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับใบไม้แดงและการขับรถอันหวาดเสียวได้ไปพร้อมกัน
เทศกาลของโทจิงิ เต็มไปด้วยเอกลักษณ์

สิ่งที่น่าชมอีกอย่างในฤดูใบไม้ร่วงของโทจิงิ คืองานเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงที่จัดขึ้นตามที่ต่างๆ
งานเด่นงานแรกคือ “เทศกาลชิโอบาระออนเซน”(ต้นเดือนกันยายน) ของอำเภอนาสุชิโอบาระที่อยู่ตอนเหนือสุดของจังหวัดโทจิงิ ที่มาพร้อมกับเสียงกลองญี่ปุ่นอันร่าเริงคือรถเกี้ยวที่ประดับประดาอย่างสวยงามด้วยตุ๊กตาและดอกไม้เป็นรูปตัวเอกในนิทานปรัมปราหรือตัวละครของการ์ตูนแอนิเมชั่นต่างๆ มากมาย สร้างความสนุกสนานให้กับเมืองบ่อน้ำร้อนแห่งนี้
เทศกาลชิโอบาระออนเซน
สอบถามรายละเอียดได้ที่: สมาคมท่องเที่ยวชิโอบาระออนเซน
e-mail: kanko@siobara.or.jp

“เทศกาลคานุมะบุทซึเกะอากิ”(ต้นเดือนตุลาคม) ที่อำเภอคานุมะ ทางตอนกลางของจังหวัดโทจิงิ เป็นเทศกาลแห่เกี้ยวและรถเข็นนั่งร้านซึ่งประดับอย่างสวยงาม แห่พาเหรดมาร์ชไปรอบตัวเมืองชั้นใน จุดน่าชมคือ “บุทซึเกะ” ซึ่งเป็นการประชันกลองญี่ปุ่นจากรถเข็นนั่งร้านที่สูงกว่า 2 ชั้นที่ประจันหน้ากัน
เทศกาลคานุมะบุทซึเกะอากิ
สอบถามรายละเอียดได้ที่: แผนกท่องเที่ยว อำเภอคานุมะ
e-mail:kankou@city.kanuma.lg.jp

ที่แนะนำสำหรับผู้ต้องการชมเทศกาลอันเป็นประเพณีที่สืบเนื่องมาอย่างยาวนาน คือเทศกาลอันยิ่งใหญ่ประจำฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้านิกโกโทโชงู ที่จะจัดในวันที่ 16และ17 ตุลาคมของทุกปี ทั้งพิธีกรรมยาบุซาเมะซึ่งจะยิงธนูจากบนหลังม้าที่กำลังวิ่งใส่เป้า และ “เฮียคุโมโนะเซนนินมุฉะเกียวเรทซึ” การเดินขบวนของผู้คนที่สวมเครื่องแต่งกายแบบเมื่อ 400 ปีที่แล้ว สร้างความตระการตาได้เต็มร้อย ในปี

“เทศกาลโทจิงิอากิมัทซึริ(เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงโทจิงิ)” ของอำเภอโทจิงิทางตอนใต้ของจังหวัด มีจุดเด่นที่รถเกี้ยวที่ถูกประดับอย่างอลังการ บนรถเกี้ยวที่ถูกแห่ไปรอบเมืองซึ่งตบแต่งด้วยประติมากรรมจากด้ายเงินด้ายทองคือตุ๊กตาของเทพเจ้าหรือเหล่าผู้กล้าในประวัติศาสตร์ จังหวะอันรุนแรงหนักแน่นของกลองใหญ่ญี่ปุ่นเร้าอารมณ์ของบรรดาผู้มาเที่ยวชม เทศกาลโทจิงิอากิมัทซึริ(เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงโทจิงิ) นี้จัดขึ้น 2 ปีครั้ง เป็นเวลา 2 วันในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
เทศกาลโทจิงิอากิมัทซึริ(เทศกาลฤดูไบไม้ร่วงโทจิงิ)
สอบถามรายละเอียดได้ที่: สมาคมท่องเที่ยวอำเภอโทจิงิ
โทรศัพท์: 0282-25-2356
e-mail: t-kankou@cc9.ne.jp

“Japan Cup Cycle Road Race”ที่จะจัดขึ้นที่อุซึโนมิยะเขตตัวเมืองของจังหวัดในช่วงปลายเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นงานที่แม้ไม่ใช่คอจักรยานก็อยากจะเข้าร่วม เป็นงานเดียวในญี่ปุ่นที่สามารถชมนักแข่งระดับ Le Tour de France แข่งขันกันอย่างเอาจริงได้แบบติดขอบสนาม เป็นการแข่งแบบ One-day Race งานเดียวในเอเชียที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับประเภทสูงสุด
Japan Cup Cycle Road Race
สอบถามรายละเอียดได้ที่: JAPAN CUP CYCLE ROAD RACE Management Office
โทรศัพท์: 028-689-9311