เดินทางสู่คานาซาวะอย่างสะดวกสบายด้วยโฮคุริคุชินคังเซ็น
ภูมิภาคโฮคุริคุ(Hokuriku)ที่หันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่น อำเภอคานาซาวะซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้สามารถเดินทางจากหัวเมืองสำคัญอย่าง โตเกียว, นาโงยะ, เกียวโต, และโอซาก้า ได้ด้วยเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น การเดินทางจากโตเกียวด้วยรถไฟโฮคุริคุชินคังเซ็น(Hokuriku Shinkansen)ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2015 ทำให้สามารถเดินทางอย่างสะดวกสบายได้ด้วขบวนรถไฟที่ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใหม่ล่าสุด และยังสามารถใช้บัตรรถไฟ Japan Rail Pass ได้อีกด้วย(ยกเว้นที่นั่งระดับสูงสุด Grand Class)

สีประจำตัวรถของโฮคุริคุชินคังเซ็นคือ สีฟ้า และสีทองแดง(บน) สำหรับตู้รถระดับ Green ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรากว่า ใช้สีครามสร้างบรรยากาศที่สงบ สุขุม(ล่างซ้าย) ห้องสุขาภายในขบวนติดตั้ง “Washlet” ที่สามารถใช้ชำระจุดซ่อนเร้นได้ด้วยน้ำอุ่น เป็นเทคโนโลยีชั้นสูงจาก TOTO ผู้ผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกของญี่ปุ่น(ล่างขวา) จริงๆแล้ว ด้วยการจัดสีเช่นนี้และห้องสุขาภายในขบวน การ “MOTENASHI” สู่คานาซาวะก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
คานาซาวะเป็นดินแดนที่ถูกปกครองโดยตระกูลมาเอดะ(Maeda)มาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 16 เป็นระยะเวลากว่า 300 ปี เมืองใต้ปราสาท(เมืองที่พัฒนาและกระจายตัวอยู่รอบปราสาท)ล้อมรอบปราสาทคานาซาวะ(Kanazawa Castle)ซึ่งเป็นที่พำนักของผู้ปกครองดินแดน ตระกูลมาเอดะเป็นผู้ครองดินแดนอาณาเขตใหญ่ที่สุดในยุคสมัยนั้น ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมทั้งจังหวัดอิชิคาวะ และจังหวัดโทยามะ ให้ความสำคัญและสนับสนุนการพัฒนาทางวัฒนธรรมของคานาซาวะอย่างสุดความสามารถ นอกจากนี้ เนื่องจากคานาซาวะไม่ต้องภัยจากสงคราม จึงยังคงหลงเหลืออาคารบ้านเรือนตั้งแต่ยุคสมัยนั้น และยังคงสืบทอดประเพณี วัฒนธรรม และศิลปหัตถกรรมมาจนถึงปัจจุบัน โดยในบรรดาสิ่งที่สืบทอดกันมานั้น สวนเค็นโรคุเอ็น(Kenrokuen) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสวนของตระกูลมาเอดะ ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง

เซย์ซงคาคุ(Seisonkaku) ที่อยู่ติดกับสวนเค็นโรคุเอ็น ก็เป็นอีกที่ที่อยากให้ไปเยือน ที่นี่เป็นคฤหาสน์ที่เจ้าบ้านรุ่นที่ 13 แห่งตระกูลมาเอดะสร้างขึ้นเพื่อมารดา ซึ่งจะสามารถชมห้องที่มีวัสดุ สีสัน และภาพวาดสวยงามประดับตกแต่งมากมาย ที่ชวนจดจำเป็นอย่างยิ่งคือ “ห้องกุนโจโนะมะ”(Gunjo no ma) บนชั้น 2 ที่ประดับเพดานด้วยสีกุนโจ(สีคราม) จริงๆแล้ว ดูเหมือนว่า สีครามที่เป็นสีน้ำเงินอมม่วงนี้จะเป็นจุดกำเนิดความคิดเรื่องสีของตู้รถระดับ Green ของโฮคุริคุชินคังเซ็นนั่นเอง สีฟ้าสดใสที่ตัดกับวัสดุไม้เงางาม ก็ดูคับคล้ายคับคลากับสีฟ้าและสีทองแดงบนตัวรถเช่นกัน

ฤดูกาลทั้ง 4 ที่แสนงดงามของคานาซาวะ และประเพณีดั้งเดิมเพื่อดื่มด่ำกับฤดูลกาล
ที่คานาซาวะนี้ สามารถชื่นชมกับทัศนียภาพที่แฝงด้วยกลิ่นอายในแต่ละฤดูของประเทศญี่ปุ่น ทั้งใบไม้ผลิ ร้อน ใบไม้ร่วง และหนาว

ชาวญี่ปุ่นในสมัยโบราณ จะถ่ายทอดความงดงามของทัศนียภาพในฤดูกาลทั้ง 4 ออกมาในรูปแบบของเครื่องแต่งกาย กิโมโน หรือขนมญี่ปุ่น ไม่ว่าจะด้วยสีหรือรูปร่าง เพื่อเพลิดเพลินกับการเปลี่ยนแปลงของฤดู ที่คานาซาวะมี “คางะยูเซ็น”(Kaga Yuzen; การย้อมแบบคางะ) ที่ใช้การวาดลวดลายลงบนเนื้อผ้า ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ เป็นวิธีการวาดเส้นลวดลายที่ได้แบบมาจากธรรมชาติ หรือลายดั้งเดิมด้วยน้ำกาวเป็นเส้นบางๆ เพื่อกันย้อม(การป้องกันบางส่วนไม่ให้สีย้อมปนเข้าไป) จากนั้นจึงลงสีในส่วนอื่นๆ แล้วล้างน้ำกาวออก สร้างลวดลายและสีสันที่สวยงามละเอียดอ่อน


ขนมญี่ปุ่น หรือ วะงาชิ(Wagashi) ก็เป็นเครื่องแสดงถึงหัวใจที่รักในฤดูกาลของคนญี่ปุ่นเช่นกัน ที่คานาซาวะซึ่งซะโด(Sado) หรือศาสตร์แห่งการชงชามีความรุ่งเรือง ก็ให้ความสำคัญกับขนมญี่ปุ่นมาช้านาน ขนมญี่ปุ่นซึ่งทำโดยใช้จินตนาการจากดอกไม้ใบหญ้าหรือทัศนียภาพในแต่ละฤดู มีหัวใจแห่งการต้อนรับขับสู้และความยึดมั่นในความงามของคานาซาวะแฝงอยู่เต็มเปี่ยม มีห้องเรียนที่สามารถทดลองทำขนมญี่ปุ่นได้ ไปลองทำและลิ้มรสประวัติศาสตร์อันยาวนาน และกลิ่นอายแห่งฤดูลกาลของคานาซาวะดู



สถานีคานาซาวะที่แฝงไปด้วยความยินดีในการต้อนรับ
ดังที่เห็นจากการชงชาหรือขนมญี่ปุ่น วัฒนธรรมการต้อนรับแขกผู้มาเยือนฝังรากลึกอยู่ในคานาซาวะ และสิ่งที่สะท้อนลักษณะนั้นออกมาได้เป็นอย่างดีก็คือสถานีคานาซาวะ เมื่ออกจากสถานีจะพบกับ “MOTENASHI Dome”(โมเตนาชิโดม หรือโดมแห่งการต้อนรับ) ขนาดยักษ์ที่สร้างจากกระจกและอลูมิเนียมทอดตัวอยู่ตรงหน้า โดมนี้ถูกออกแบบให้เป็นเหมือนร่มขนาดยักษ์ที่เป็นที่กำบังให้กับผู้มาเยือนยังเมืองที่ฝนและหิมะมากอย่างคานาซาวะ ถัดออกไปคือ “TSUZUMI MON”(ซึซึมิมง หรือประตูกลอง) ที่ออกแบบมาจาก “ซึซึมิ” หรือกลองญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดงละครโน(Nogaku) นาฏศิลป์อันมีประวัติสืบทอดกันมาแต่โบราณของญี่ปุ่น เฝ้ารออยู่เพื่อแสดงถึงความยินดีที่ได้ต้อนรับแขกผู้มาเยือนทุกคน


ภายในตัวสถานีซึ่งตกแต่งเพื่อเป็น “สถานีที่ต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยศิลปหัตถกรรม” มีงานฝีมือต่างๆมากมายที่สืบทอดกันมาภายในจังหวัดอิชิคาวะ ตกแต่งไว้ราวกับเป็นสถานที่แสดงงานศิลป์ จนได้รับการยกย่องเป็น 1 ในสถานีที่งดงามที่สุดในโลก ที่ห้องพักรับรองสำหรับผู้โดยสารรถไฟชินคังเซ็นมีผลงานกว่า 30 ประเภท 236 ชิ้นประดับฝังไว้ในกำแพง สามารถเพลิดเพลินได้แม้กระทั่งเวลารอรถไฟ

ห้องสุขาภายในสถานีฝั่งชินคังเซ็น ก็ต้อนรับผู้มาเยือนคานาซาวะด้วยรถไฟชินคังเซ็นด้วยงานฝีมือท้องถิ่นเช่นกัน กำแพงผนังขนาดใหญ่หน้าทางเข้าห้องสุขาดึงดูดสายตาผู้คนด้วยผลงานของช่างฝีมือชั้นครูของคางะยูเซ็นที่สวยงามตระการตา ฝั่งสุภาพบุรุษเป็นภาพบุปผา วิหค วายุ จันทราแห่งสวนเค็นโรคุเอ็น สำหรับฝั่งสุภาพสตรีเป็นภาพของดอกอาเคบิ(Akebia) ซึ่งแสดงถึงฤดูกาลที่ผันเปลี่ยนของคานาซาวะ


และนอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องสุขาก็แสดงถึงจิตใจแห่งการต้อนรับขับสู้เช่นกัน ห้องเดี่ยวทุกห้องติดตั้ง “Washlet” ฝารองนั่งอัตโนมัติที่สามารถฉีดชำระได้ด้วยน้ำอุ่น จริงๆแล้ว Washlet นี้แฝงด้วยความปรารถนาที่จะเชิญชวนให้ผู้ใช้งานเข้ามาใช้อย่างสะดวกสบายในห้องสุขา
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องสุขายังใส่ใจทุกรายละเอียดโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของทุกๆคน ทั้งเด็ก, ผู้สูงวัย, ผู้ใช้รถเข็น หรือผู้ใช้ Ostomate(ลำไส้หรืออวัยวะขับถ่ายเทียม) ในจุดที่ใกล้ทางเข้าจะมีห้องสุขาเอนกประสงค์ที่ติดตั้ง ฝารองนั่งเอนกประสงค์, เก้าอี้เด็ก หรือ Toilet Pack สำหรับ Osotomete ไว้ และยังมีถึง 2 ห้องโดยแต่ละห้องจะติดอุปกรณ์สลับ ตำแหน่งซ้ายขวากัน เพื่อให้ผู้ที่ทุพพลภาพที่ถนัดด้านใดด้านหนึ่งสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังมีบริการห้องสุขานี้ ภายในพื้นที่ทั้งฝั่งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี


โดยคำนึงถึงความสะอาด ห้องสุขาสำหรับสุภาพบุรุษจึงติดตั้ง Hydrocera Floor ซึ่งสามารถลดกลิ่นและความสกปรกได้บนพื้น โดยออกแบบอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด ในห้องเดี่ยวทุกห้องทั้งฝั่งสุภาพบุรุษและสตรี โดยติดตั้งราวจับและเก้าอี้เด็ก นอกจากนี้ในห้องสุขาสำหรับสุภาพสตรียังมีห้องสุขาสำหรับเด็กเล็ก และมุมเด็กมีการติดตั้งอุปกรณ์ล้างมืออีกด้วย ที่มุมแต่งตัวก็มีฉากกั้น จึงสามารถแต่งหน้าได้โดยไม่ต้องกังวลผู้ใช้งานรอบข้าง
สำหรับท่านที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปยังคานาซาวะ ลองเข้าไปสัมผัสกับ Washlet ที่รวมเอาเทคโนโลยีชั้นเยี่ยมของญี่ปุ่นและหัวใจที่เอาใจใส่ในรายละเอียดเข้าไว้ด้วยกันได้ ที่ห้องสุขาในรถไฟชินคังเซ็น หรือภายในสถานีคานาซาวะส่วนชินคังเซ็น
ห้องสุขาของญี่ปุ่นที่เปี่ยมด้วยหัวใจแห่งการต้อนรับ
ผู้สร้างสรรค์ห้องสุขาทั้งในขบวนรถไฟโฮคุริคุชินคังเซ็นและสถานีคานาซาวะ คือ TOTO ผู้พัฒนาฝารองนั่งอัตโนมัติพร้อมระบบฉีดชำระด้วยน้ำอุ่นเป็นรายแรกในญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตสุขภัณฑ์และการจัดการห้องสุขาตามสถานที่ต่างๆ และบ้านพักอาศัยในญี่ปุ่น การวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ TOTO นั้นมี MOTENASHI สอดแทรกอยู่ในทุกรายละเอียด ซึ่งได้ติดตั้งฟังก์ชั่นการทำงานที่สะดวกสบายและโดดเด่นไม่ซ้ำใครให้แก่ห้องสุขา เหตุผลที่คนญี่ปุ่นมุ่งมั่นและใส่ใจในห้องสุขาที่สะอาดและมีประสิทธิภาพเช่นนี้ อยากให้ลองเข้าไปดูดูเว็บไซต์ของ TOTO ก็จะเข้าใจได้เป็นอย่างดี
นอกจาก “Washlet” ฝารองนั่งอัตโนมัติพร้อมระบบฉีดชำระจุดซ่อนเร้นได้ด้วยน้ำอุ่นอย่างสะดวกสบายแล้ว ฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมากมาย อาทิ ฝารองนั่งจะเปิดอัตโนมัติเมื่อมีผู้เข้ามาใช้งาน, “ฝารองนั่งอุ่น” เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับผิวสัมผัสเมื่อใช้งาน, ความสามารถในการขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์, หรือแม้แต่ “OTOHIME” ที่สามารถกลบเสียงขณะทำธุระในห้องสุขาได้ด้วยเสียงน้ำไหล
และเมื่อไม่นานมานี้ TOTOได้พัฒนา “KIREI JOKINSUI” (น้ำบริสุทธิ์ที่กำจัดเชื้อโรค) โดยการนำน้ำประปาผ่านกระบวนการแยกประจุคลอไรด์อิออนด้วยไฟฟ้า ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นน้ำบริสุทธิ์ในที่สุด โดยมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อบริเวณพื้นผิวสุขภัณฑ์ ด้วยการฉีดพ่นน้ำบริสุทธิ์นี้ภายในโถโดยอัตโนมัติ หรือใช้หัวฉีดของ Washlet เพื่อทำความสะอาดและกำจัดเชื้อโรคที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าด้วย

เริ่มตั้งแต่อำเภอคานาซาวะ ความเอาใจใส่และความละเอียดอ่อนที่มีต่อแขกผู้มาเยือนของญี่ปุ่นมีมาแต่โบราณ นั่นเป็น 1 ในพลังขับเคลื่อนความสร้างสรรค์ของญี่ปุ่น และเกิดเป็นความมุ่งมั่นที่จะคิดค้นและพัฒนา อาจกล่าวได้ว่า หัวใจแห่ง “MOTENASHI” แบบญี่ปุ่นเป็นตัวสร้างให้เกิดเทคโนโลยีอันยอดเยี่ยมของญี่ปุ่นในทุกวันนี้ก็เป็นได้